การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน Creativity-based Learning (CBL)
บรรยากาศห้องเรียน CBL 9 ข้อ
- ครูควรเหลือเวลาให้เด็กค้นคว้ามาก ๆ คุยมาก ๆ นําเสนอมาก ๆ ใช้เวลาใน
การสอนให้น้อยลงและมักจะเดินสอนตามกลุ่มมากกว่าสอนรวม
- หลีกเลี่ยงการอธิบายอย่างละเอียด แต่จะพยายามให้เด็กค้นหาคําตอบเอง
ครูมักจะตอบคําถามด้วยคําถามเพื่อให้เด็กสนใจต่อ ในการสอนแบบเดิม
- ผู้เรียนมักกลัวผิด เพราะผู้สอนมักจะมีคําตอบที่ถูกเอาไว้แล้ว ดังนั้นใน CBL
- ครูควรหลีกเลี่ยงการตัดสินแบบเด็ดขาด เช่น ถูกต้อง ผิด แต่จะใช้วิธีถามว่า
แน่ใจหรือ ทําไมคิดอย่างนั้นหรือเพื่อน ๆ คิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้
- บรรยากาศของ CBL ที่สําคัญมาก ๆ คือ การสนับสนุนให้คิด
- ใช้เรื่องที่เด็กสนใจเป็นเนื้อหานํา และการค้นคว้า และเนื้อหาวิชาความรู้
ตามตําราเป็นตัวตามช่วงเวลาเรียนควรยาวกว่า 90 นาที และอาจเรียนหลายวิชา
พร้อม ๆ กัน
- ขึ้นกับปัญหาที่ตั้งเกี่ยวโยงกับวิชาใดบ้าง ครูอาจสอนพร้อม ๆ กันทั้ง 2-3
วิชาในห้องเรียนเดียวกัน CBL จะเน้นให้เด็กสนใจพัฒนาการตนเองในด้านต่าง ๆ จึงไม่
จําเป็นต้องวัดผลครั้งเดียว
- ควรมีการวัดผลและรายงานผลให้เด็กรู้และพัฒนาตนเอง ในแต่ละด้าน CBL
จะได้ผลดีจากความสมัครใจ ความสนใจของเด็ก และความร่วมมือมากกว่าการบังคับ
ให้รู้ ดังนั้นการตัดคะแนนและลงโทษ เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- ครูจะเป็นผู้รับฟังเรื่องราวที่เด็กคิด นําเสนอ และเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับเด็ก
ครูอาจมีการติติง และแสดงความคิดเห็นในจังหวะที่เหมาะสม และสิ่งที่จําเป็นมาก ๆ
คือการให้กําลังใจ
ตัวอย่างในทางปฏิบัติ เริ่มจาก การออกแบบการสอน เดิมนั้น เราสอนเนื้อหาวิชาเพื่อให้เด็กรู้ จดจํา และนําไปใช้แต่ด้วย CBL เราจะเริ่มจากการคิดว่า เราต้องการอะไร ในวิชาที่เราจะสอน เราอยากเห็นเด็กของเราเป็นอย่างไรเมื่อผ่านการเรียนกับเรา ซึ่งแน่นอนว่า ต้องมากกว่า แค่เนื้อหาครับ เพราะถ้าจะเอาแค่เนื้อหา เราก็สอนแบบเดิม เช่น ในเรื่อง ปัญหาวัยรุ่น ยาเสพติด ความรัก ความรุนแรง เรามีเป้าหมายคือ จะให้เขารู้เรื่องเหล่านี้ ให้มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ ให้มีทักษะในการคิดสร้างสรรค์ ให้มีทักษะ ในการสื่อสาร นําเสนอผลงาน ให้มีทักษะในการทํางานร่วมกัน ให้มีความรับผิดชอบ ดังนั้น แทนที่เราจะสอนโทษของยาเสพติด ชนิดของยาเสพติด สอนพรหมวิหาร 4 สอนให้ป้องกันการตั้งครรภ์ ฯลฯ เราจะเปลี่ยนเป็น การใช้กระบวนการ CBL ครับ คือ กระตุ้นความสนใจ ซึ่งอาจใช้เรื่องจากหนังสือพิมพ์ ข่าวทีวี ดาราดัง หรือเรื่อง ใกล้ตัวที่เด็กสนใจ ให้คิดตั้งคําถามหรือ หัวข้อเพื่อให้เขาค้นคว้าในเรื่องนั้น ๆ แบ่งกลุ่มให้ค้นคว้า ระหว่างที่เขาค้นคว้าครูอาจเดินเพื่อคุยและบางกลุ่มต้องการ การสอนจากครู จากนั้นให้มีการนําเสนอเรื่องที่แต่ละกลุ่มค้นหามาตรงนี้แหละครับ สําคัญมาก เด็กที่ออกมาพูดเรื่องยาเสพติด ความรัก ความรุนแรง แต่ละกลุ่มก็จะ จําเนื้อหาต่าง ๆ ได้เองจากประสบการณ์ในการเรียนรู้ และเขาจะคิดได้ว่าเขาควรจะ จัดการอย่างไรกับมัน เพื่อน ๆ ก็จะคอยโหวต ให้คะแนน วิจารณ์ ซักถาม ความรู้ที่ เกิดขึ้นในชั้นเรียนอาจดีกว่า เหมาะกว่า และเป็นจริงกว่าในตําราที่สําคัญมันเอาไป ใช้ในชีวิตเขาได้จริง
บทความโดย ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์